ใบความรู้ที่ 2 ชุดที่ 1 เรื่อง นาฏยศัพท์
ใบความรู้ที่
2
ชุดที่
1 เรื่อง นาฏยศัพท์
นาฏยศัพท์
หมายถึง ศัพท์ที่เกี่ยวกับลักษณะท่ารำที่ใช้ในการถ่ายทอดและฝึกหัดในการรำ
นาฏศิลป์ไทย ซึ่งจะใช้คำนาฏศัพท์เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดท่ารำ ซึ่งนักเรียนจะต้องเป็นผู้ที่รู้จัก
ในเรื่องของนาฏยศัพท์มาแล้ว จะทำให้การสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น
นาฏยศัพท์ที่ควรทราบในพื้นฐานเบื้องต้น
มีดังนี้
ภาพที่
1
ตั้งวง
เป็นลักษณะของลำแขนที่ทอดโค้ง ปลายนิ้วตั้งขึ้น นิ้วทั้งสี่เรียงชิดติดกัน นิ้วหัวแม่มือหักเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย หักข้อมือเข้าหาลำแขน
ภาพที่ 2
ตัวพระและตัวนางจะแตกต่างกัน ตัวพระวงบนจะอยู่ระดับแง่ศีรษะ (ขมับ) ส่วนโค้งของลำแขนจะกว้าง ส่วนวงบนตัวนางจะอยู่ระดับหางคิ้ว ส่วนโค้งของลำแขนจะแคบกว่าตัวพระ แล้วหักข้อมือเข้าหาลำแขน
ภาพที่
3
เป็นการตั้งวงโดยยกส่วนโค้งของลำแขนขึ้น ให้ปลายนิ้วสูงระดับไหล่ ตัวพระ ลำแขน จะผายออกทางด้านข้าง ตัวนางลำแขนจะหุบเข้ามาทางด้านหน้าเล็กน้อย
ภาพที่
4
วงล่าง
เป็นการตั้งวงโดยทอดส่วนโค้งของลำแขนไปด้านล่าง ปลายนิ้วมืออยู่ระดับหน้าท้อง หรือระดับสะเอว ตัวพระกันศอกให้เป็นช่องว่างระหว่างลำแขนกับลำตัว ตัวนางไม่ต้องกันศอก ปลายนิ้วอยู่ระดับหัวเข็มขัดวงล่าง
ภาพที่
5
วงหน้า
เป็นการตั้งวงโดยทอดส่วนโค้งของลำแขนไปด้านหน้า ปลายนิ้วมืออยู่ระดับปาก
หรือระดับหน้าอก ตัวพระกันศอกให้เป็นช่องว่างระหว่างลำแขนกับลำตัว ตัวนางไม่ต้อง กันศอก ปลายนิ้วอยู่ระดับปาก
ภาพที่ 6
เป็นการตั้งวงโดยการหงายลำแขน พร้อมทั้งหักข้อศอกให้แขนท่อนล่างพับเข้าหาลำตัว ในลักษณะตั้งฉาก ข้อศอกสูงระดับไหล่ หงายฝ่ามือและหักข้อมือลงปลายนิ้วชี้ เฉียง ออกมาด้านหน้าข้างลำตัว ให้วงอยู่ระดับแง่ ศีรษะ ตัวพระ กันข้อศอกออกกว้างกว่าตัวนาง
ภาพที่
7
|
จีบ คือการหงายมือออกมาข้างหน้าแล้วเอานิ้วหัวแม่มือมาจรดข้อแรกของนิ้วชี้นิ้วทั้งสองเหยียดตึง
ส่วนนิ้วทั้งสามที่เหลือให้เหยียดตึงแล้วกรีดนิ้วออกไปเป็นรูปพัด การจีบมือต้องหักข้อมือเข้าหาลำแขนให้มากที่สุด
ภาพที่ 8
จีบคว่ำ
เป็นการจีบโดยคว่ำท้องแขนและฝ่ามือลง ให้ปลายนิ้วชี้ลงข้างล่างแล้วหักข้อมือเข้าหาท้องแขน ตัวพระ
วงแขนกันออกกว้างกว่าตัวนาง
ภาพที่ 9
เป็นการจีบโดยหงายท้องแขนและฝ่ามือขึ้นให้ปลายนิ้วชี้ขึ้นข้างบนแล้วหักข้อมือเข้าหาลำแขน
ตัวพระวงแขนกันออกกว้างกว่าตัวนาง
ภาพที่ 10
จีบปรกหน้า
เป็นการจีบโดยหงายท้องแขนและฝ่ามือขึ้น ให้ปลายนิ้วชี้ขึ้นข้างบน แล้วยกลำแขนขึ้นหักข้อศอกให้ปลายนิ้วจีบหันเข้าหาใบหน้า
จีบอยู่ระดับหน้า ตัวพระ
วงแขนกันออกกว้างกว่าตัวนาง
ภาพที่ 11
การจีบโดยหงายท้องแขนและฝ่ามือขึ้น ให้ปลายนิ้วชี้ขึ้นข้างบน แล้วยกลำแขน หักข้อศอกขึ้น
หันปลายจีบเข้าหาศีรษะให้ปลายนิ้วมืออยู่ระดับแง่ศีรษะ หักข้อมือเข้าหาลำแขน ตัวพระ
วงแขนกันออกกว้างกว่าตัวนาง
ภาพที่ 12
จีบส่งหลัง
เป็นการจีบโดยเหยียดแขนให้ตึง
ส่งแขนไปข้างหลังของลำตัว แล้วพลิกลำแขน ส่วนล่างหงายขึ้นให้ปลายนิ้วที่จีบชี้ขึ้นข้างบน หักข้อมือเข้าหาลำแขน
ภาพที่ 13
เป็นกริยาของมือ
ให้นิ้วหัวแม่มือกดปลายนิ้วกลาง นิ้วที่เหลือกรีดออกให้ตึง หักข้อมือเข้าหาลำแขน
นาฎยศัพท์ส่วนเท้า
นาฏยศัพท์ส่วนเท้า คือ การใช้ร่างกายในส่วนของเท้าเคลื่อนไหวเพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกายในส่วนอื่นได้อย่างถูกต้องสวยงาม
ตามแบบนาฏศิลป์ไทย ดังนี้
ภาพที่ 14
จรดเท้า การจรดเท้านี้ จะจรดข้างไหนก่อนก็ได้
แต่จะปฏิบัติพร้อมๆกันไม่ได้ ถ้าจะจรดเท้าด้วยเท้าซ้ายก้าวเท้าขวาลงไป พร้อมกันนั้นต้องยกเท้าซ้ายให้สูงขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
แล้วใช้จมูกเท้าวางลงบนพื้น แต่ส้นเท้าต้องสูงจากพื้นพอประมาณ การจรดเท้านี้น้ำหนักจะต้องไปอยู่ที่ขาตรงกันข้าม เช่น จรดด้วยเท้าซ้ายน้ำหนักจะต้องไปอยู่ที่ขาขวาเป็นต้น ตัวพระ
กันเข่าออกให้ได้เหลี่ยม
ภาพที่ 15
กระทุ้งเท้า คือ
การกระแทกจมูกเท้าที่อยู่ข้างหลังครั้งหนึ่งก่อน แล้วกระดกเท้าโดยยกเท้าที่กระแทกไปด้านหลัง
ให้ส้นเท้าชิดกับก้น บางครั้งการกระทุ้งเท้าไม่ต้องกระดกก็มี
โดยกระทุ้งแล้วก้าวไปตามปกติ
ภาพที่ 16
กระดก
เท้าเป็นกริยาต่อเนื่องจากการกระทุ้งเท้าแล้วยกขึ้น
วิธีกระดกเท้าต้องให้ส่วนของน่องหนีบติดกับท้องขา
โดยส่งเข่าไปด้านหลังให้มากที่สุดปลายนิ้วเท้าชี้ลง
ภาพที่ 17
ประเท้า
ประเท้า การประเท้านี้จะประเท้าไหนก่อนก็ได้ แต่จะประเท้าเดียวพร้อม ๆ กันไม่ได้ ถ้าประเท้าขวาก่อนต้องย่อตัวลงแล้วถ่ายน้ำหนักให้มาอยู่ขาซ้าย
ส่วนขาขวาเวลานี้มีน้ำหนักเบามาก เพราะจะใช้ประแล้วก็ยืด – ยุบ
พอยุบลงแล้วดึงปลายนิ้วเท้าทั้ง 5 นิ้ว ขึ้นมาให้มากที่สุด แล้วกระดกปลายเท้าขึ้นโดยการใช้ส้นเท้ายันพื้นไว้ แล้วจึงตบเท้าขวาลงพื้นเบาๆ
และยกขึ้นเวลาตบเท้าลงไปจะต้องใช้จมูกเท้าอย่าใช้ปลายนิ้วเท้า
การจะยกเท้าขึ้นมานั้น ต้องยกขึ้นมาในลักษณะกระชากเข่าขึ้นมาเล็กน้อย
ถ้าจะประเท้าซ้าย ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับเท้าขวาการประเท้านี้ความสัมพันธ์อยู่ที่ยืด
– ยุบ ประ – ยก
ต้องเป็นจังหวะที่ติดต่อจึง จะใช้ได้
การประเท้านี้ มีอยู่ 2 แบบ แบบที่
1 ประแล้วยกขึ้น แบบที่ 2 คือประอยู่กับที่
ภาพที่ 18
ยกเท้าเป็นกริยาต่อจากการประเท้า โดยยกเท้าขึ้นด้านหน้าให้ฝ่าเท้าขนาน กับพื้น
ยกเท้าสูงระดับหน้าแข้งของเท้าที่ยืนรับน้ำหนักเชิดปลายนิ้วเท้าขึ้นให้เฉียงปลายเท้าเล็กน้อย
ตัวนางไม่กันเข่าตัวพระกันเข่าออกให้เห็นเหลี่ยมขาและหันน่องออกด้านหน้า
เอกสารอ้างอิง
โกสุม สายใจและคณะ. (2549). สุนทรียภาพของชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร :
มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต.
สุดใจ ทศพร.
(2546). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรี – นาฏศิลป์ ม.1.
กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์.
เรณู โกศินานนท์. (2546).
นาฏยศัพท์-ภาษาท่าทางนาฏศิลป์
(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร :
บริษัท โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช
อมรา กล่ำเจริญ. (2531).
สุนทรียนาฏศิลป์ไทย (พิมพ์ครั้งที่
2). กรุงเทพมหานคร :
โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์.
อัญชญา มีภู่.
(2553). พื้นฐานนาฏศิลป์ไทยเบื้องต้น
(เล่มที่ 1).
เข้าถึงได้จาก : https://www.gotoknow.org/posts/376103
(วันที่ค้นข้อมูล 10 กุมภาพันธ์ 2557).
ครูอัษ. (2554).
นาฎยศัพท์. เข้าถึงได้จาก
:
(วันที่ค้นข้อมูล10 กุมภาพันธ์ 2557).
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น